ชื่อเสียง เกียรติประวัติ เงินทอง คือสิ่งที่ตามมาในภายหลัง แต่ความฝันจะเป็นจริงได้เมื่อลงมือทำ หากใครสักคนอยากไปถึงแชมป์โลกคงต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อสิ่งๆนี้ทั้งแรงกายแรงใจเพื่อไปให้ถึงฝัน เช่นเดียวกับ The Cruz หรือ ไอซ์ – ปิยพนธ์ บุญช่วย เด็กหนุ่มวัยเพียง 16 ปี ที่กล้าตัดสินใจขอแม่ออกจากรั้วโรงเรียนเพราะความฝันของเขามีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือแชมป์โลกเกม Free Fire

จากความฝันแปรเปลี่ยนเป็นความจริง เมื่อเขาเพิ่งมีส่วนพา Phoenix Force(EVOS Esports) คว้าแชมป์ Free Fire World Series 2021 และเป็นทีมไทยทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ

อะไรที่ทำให้เขากล้าตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง เขาทำให้ครอบครัวยอมรับทางเดินที่เลือกอย่างไร และกว่าจะไปถึงแชมป์โลกต้องผ่านอะไรบ้าง One Esports จะพาคุณไปค้นหาคำตอบร่วมกัน

จุติ The Cruz เทพ Free Fire

Credit: CruzGaming

“ผมพูดไม่เก่งนะ” ไอซ์ เอ่ยประโยคแรกก่อนเริ่มสัมภาษณ์กับทีมงาน One Esports น้ำเสียงของเขาทำให้ดูเป็นคนพูดน้อย เขินอาย เหมือนเด็กทั่วไปที่ไม่ถนัดการพูดคุยผ่านสื่อสกเท่าไหร่ ผิดกับบุคลิกในเกมที่ฝีมือโหดเข้าขั้นตั้งแต่เข้าสู่วงการ Garena Free Fire จนถูกแฟนๆที่คอยติดตามเรียกเขาว่า “เทพ Cruz”

แต่กว่าจะได้เดินบนเส้นทางนี้ เขาต้องเจออุปสรรคไม่น้อย โดยเฉพาะการยอมรับของครอบครัวกับมุมมองที่มีต่อเกม แน่นอนว่า ในฐานะผู้ปกครองย่อมอยากเห็นลูกให้ความสำคัญด้านการศึกษามากกว่าเกมเพื่ออนาคตที่ดี ทำให้ก้าวแรกของเด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านนี้อย่างเขาต้องเริ่มจากล้มลุกคลุกคลานมาก่อน

“ผมเริ่มเล่นเกมตอนอายุ 14 ปี ผมเล่นกับเพื่อนเอาสนุก ผมเล่น Free Fire กับเพื่อนๆ”

“ช่วงนั้นผมติดเกมจนไม่ไปโรงเรียน เช้ามาแม่มาปลุกผมก็แกล้งปวดหัวตัวร้อน เพราะอยากอยู่บ้านเล่นเกม แต่เขาก็จับได้แหละว่า โกหก(หัวเราะ) มีครั้งหนึ่งผมใช้วิธีนี้เพื่อจะได้ไม่ไปเรียน แต่พ่อจับได้ตอนผมกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ เขาคว้าโทรศัพท์ไปแล้วทุบทิ้ง ผมเสียใจมาก ที่บ้านแทบให้ตัดขาดจากการเล่นเกม”

ไม่แปลกที่คนในครอบครัวจะไม่เข้าใจการเล่นเกมของเขา เพราะหากมองผิวเผิน เกมก็แค่เล่นเพื่อความบันเทิง แต่ในมุมของ ไอซ์ นับตั้งแต่วันแรกที่เขากระโดดเข้าสู่โลก Free Fire เขาตั้งเป้าหมายทันทีว่า วันหนึ่งจะต้องเป็นแชมป์โลก และด่านแรกคือการได้เข้าแข่งขัน Free Fire Pro League Thailand ซึ่งเป็นลีกอาชีพของไทย ไอซ์ จึงมุ่งมั่นฝึกฝีมือ ไต่แรงค์ในเกมในทุกๆวัน เพื่อความฝันของตัวเอง

จากความพยายามของ ไอซ์ ทำให้เขาได้เข้าทีม Xavier Esports ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มคนที่ไต่แรงค์ด้วยกัน ถือเป็นทีมแรกของเขาในฐานะนักกีฬาอีสปอร์ต โดยต่อมา เขาและทีมฝ่าด่านรอบคัดเลือกจนได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน Free Fire Pro League Thailand Season 1 ตามที่หวัง

“ก่อนหน้านั้นผมนอนร้องไห้ทุกวัน มีช่วงหนึ่งผมขอแม่ให้ซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ ตอนนั้นผมต้องหยุดเล่นไปนานเหมือนกันกว่าจะได้เล่นอีกครั้ง ผมขอโทรศัพท์แม่มาเล่นแทน ผมขอทุกวันจนเขายอมซื้อเครื่องใหม่ให้ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจหรอกว่าเรากำลังทำอะไร”

“กับ Xavier เราเป็นทีมที่มาจากเพื่อนในเกมที่ต่างคนก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนชวนมาแข่ง ตอนแรกเราลงห้องซ้อมด้วยกันจากนั้นก็ส่งทีมแข่ง แล้วได้เข้ารอบไปเล่นโปรลีก ซีซั่น 1 ตอนนั้นเราเป็นทีมอายุน้อย ทุกคนยังต้องเรียนไปด้วยแข่งเกมไปด้วย ยังไม่ได้เดินเป็นอาชีพเต็มตัว แต่ก็มองเห็นว่า เราน่าจะไปในเส้นทางนี้ได้”

การได้ลงแข่ง Free Fire Pro League Thailand Season 1 เปรียบเสมือนทัวร์นาเมนต์ที่จุดประกายความฝันของเขาให้เด่นชัดขึ้น เมื่อโอกาสมาถึงตรงหน้า เขาจึงไม่รีรอที่จะปล่อยให้หลุดลอยไป

อยากตามฝันต้องกล้าเลือก

Credit: CruzGaming

Free Fire Pro League Thailand Season 1 คือการแข่งขันลีกอาชีพที่ต้องทุ่มเทอย่างหนัก ดังนั้นชีวิตของ ไอซ์ จึงเปลี่ยนไป จากเด็กเล่นเกมธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องมีความรับผิดชอบกว่าเดิม จริงจังมากขึ้น

ด้วยความฝันที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่ได้อยากแค่มีส่วนร่วมในโปรลีก แต่เป้าหมายคือต้องเป็นแชมป์เท่านั้น ทำให้ ไอซ์ ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อให้ฝันเป็นจริง

“ผมขอแม่ดร็อปเรียนชั้นม.3 จริงๆ” ไอซ์ เล่าต่อ “ตอนนั้นหลังได้แข่งโปรลีกแม่เขาก็ยอมรับสิ่งที่ทำบ้างแล้ว ผมไปบอกแม่ว่า ผมได้เข้ารอบโปรลีกเขาก็งงๆว่า มันคืออะไร แต่ผมก็ให้โค้ชของทีม Xavier Esports มาช่วยคุยให้ เพราะต้องเดินทางจากอุทัยธานีไปรวมตัวซ้อมกับทีมที่กรุงเทพ ซึ่งทุกคนไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน พอโค้ชไปคุยแม่เขาก็เข้าใจว่า มันคือการแข่งขันอาชีพจริงๆ เขาก็สนับสนุนเต็มที่”

“ผมคิดแล้วว่า ผมจะต้องได้เล่นในโปรลีก ผมมองว่า การที่เราจะทำให้ทางบ้านเข้าใจในสิ่งที่เราเลือกคือ ผมต้องเข้ารอบไปเล่นโปรลีกให้ได้ พอได้เข้ามาเล่นจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่า แม่เขาเข้าใจหรือเปลี่ยนมุมมองกับเกมไปหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ค่อยว่าอะไรแล้ว พอเริ่มซีซั่น 1 ทั้งพ่อและแม่ก็เข้ามาดูผมแข่งด้วย”

“การเล่นอาชีพมันเปลี่ยนชีวิตจากเด็กเล่นเกมธรรมดาคนหนึ่งไปเหมือนกัน ผมมีเงินส่งให้ครอบครัวใช้ ตั้งแต่การแข่งครั้งแรกได้เงินมาผมก็ให้เขาเลย ผมต้องการเล่นเกมเป็นอาชีพเพื่อนำเงินมาให้ครอบครัวอยู่แล้ว ตอนนั้นเป็นเงิน MVP ผมก็ให้แม่ไป เขาก็ภูมิใจที่เห็นผมทำได้ เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่ผมทำมันคืออะไร”

Xavier Esports เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ไอซ์ เข้าสู่วงการอีสปอร์ตเต็มตัว แม้จะมีความกังวลอยู่บ้างเรื่องความกดดัน แต่ด้วยเป็นทีมที่มีแต่ผู้เล่นอายุไม่ห่างกันทำให้บรรยากาศผ่อนคลายเป็นกันเอง อีกทั้งครอบครัวเข้าใจมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีเมื่อเขามีโอกาสทำสิ่งที่รัก และทำให้พ่อแม่ได้เข้าใจ และภูมิใจในสิ่งที่เขาเลือก

อย่างไรก็ตามในซีซั่น 1 เขาเริ่มต้นด้วยความผิดหวัง เพราะแม้จะได้รางวัล Most Headshots และ Most Kills ประจำทัวร์นาเมนต์ แต่ทีมจบเพียงอันดับ 6 เท่านั้น

“ตอนซีซั่น 1 พวกผมไม่ได้มีแผนการเล่นอะไรกันเลย เล่นมั่วๆเดินตามวงเจอใครก็ยิง แต่ในการแข่งทำให้เราได้เห็นความแตกต่างคือ ทีมอื่นๆเขามีแผนการเล่น มีฝีมือกันหมดทุกคนไหนจะทีมที่มีประสบการณ์มากกว่าทำให้เราสู้ด้วยยาก”

“เกมมันไม่ใช่แค่ยิงอย่างเดียว แต่ทุกอย่างต้องมีแบบแผน ตอนนั้นทีมเราเล่นกันได้ดีมากๆ เราอยากไปแข่งระดับโลก แต่ก็ไม่ได้ไป เพราะพลาดแชมป์

“ซีซั่น 2 เราเล่นเหมือนเดิม แต่ทำได้ดีกว่าเดิมมาก เราสู้ได้ทุกทีม การเล่นในตอนนั้นเดินใส่อย่างเดียวผมได้ MVP อีกครั้ง เป้าหมายของผมในตอนนั้นคือต้องได้ไปชิงแชมป์โลก”

อกหักซ้ำสอง

ตลอด 2 ซีซั่น ไอซ์ และ Xavier ปิดฉากด้วยความผิดหวัง พวกเขาไปไม่ถึงแชมป์ ก่อนที่ต่อมาทีมจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ ไอซ์ เองด้วย เมื่อเส้นทางระหว่างเขา และ Xavier ต้องมาถึงทางแยก เนื่องจากผู้เล่นในทีมบางคนบ้างก็ติดเรียน บางคนต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ ส่งผลให้ไม่สามารถซ้อมเพื่อเตรียมแข่งได้เต็มที่

เมื่อทุกอย่างไม่ลงตัว ไอซ์ จึงจำใจอำลาทีม เพื่อสานฝันของเขาให้เป็นจริงต่อไป

“ผมใช้เวลาคิด และตัดสินใจนานมาก หลัง EVOS ติดต่อเข้ามา เพราะว่า Xavier เป็นทีมที่เราอยู่ด้วยกันมานาน สนิทกันมาก ตอนนั้นผมมองว่าถ้าเราเลือกไปต่อกับทีมเราก็น่าจะสามารถเป็นแชมป์ได้ เพราะทุกอย่างกำลังลงตัวมากๆ แต่สุดท้ายมันก็ต้องถึงเวลาเปลี่ยนแปลง”

“ตอนมา EVOS แรกๆ ผมเล่นไม่เข้ากับทีมเลยเล่นยังไงก็ไม่เข้ากับเขาตั้งแต่รอบเก็บคะแนน เหมือนไม่คุ้นชินกับทีม เรื่องความคิดมันแตกต่าง แต่ก็พยายามปรับตัวจนค่อยๆเริ่มเล่นเข้ากันได้บ้าง แต่กว่าจะเล่นเข้ากับเขาได้ก็ต้องรอถึงรอบชิง แต่เป้าหมายแชมป์โปรลีกเป็นแรงผลักดันอย่างดีของผม ผมอยากได้แชมป์มากๆ ผมมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมหนักมาก”

อย่างไรก็ตามกว่าจะปรับตัวได้ เขาต้องเจอกับแรงกดดัน และคำสบประมาทกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตัวเอง

“ตอนนั้นไลน์อัพในทีมมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผู้เล่นหลายคนเล่นตำแหน่งเดียวกันหมด มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า ยังไงทีมเราก็เล่นไม่เข้ากัน เพราะตำแหน่งมันทับกัน ผมเลยเปลี่ยนตำแหน่งไปเล่นเป็นตัวอ้อมหรือคอยดูหลังให้เพื่อนก็พยายามปรับกันไปเพื่อให้เขาได้เห็นว่า เราสามารถทำได้นะถ้าพยายามปรับเข้าหากัน แต่ก็ต้องปรับกันเยอะมาก”

ไอซ์ และเพื่อนร่วมทีม EVOS ต้องใช้เวลาพอสมควรปรับทั้งสกิลการเล่น, ตำแหน่งในทีม, แทคติก เรียกได้ว่าแทบจะเริ่มใหม่ทั้งหมด แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คุ้มค่ากับความทุ่มเทเกินร้อยมาตลอด

ประตูสู่แชมป์โลกของ The Cruz

credit: Phoenix Force Freefire TH

Free Fire Pro League Thailand Season 3 กลับมาแข่งขันอีกครั้ง หนนี้ ไอซ์ เชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมกับการคว้าแชมป์ที่มีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะความผิดหวังที่ผ่านมากลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เขาบรรลุฝันขั้นแรกได้สำเร็จ

2 ซีซั่นที่รอคอย ไอซ์ ทำสำเร็จในซีซั่น 3 เปรียบเสมือนประตูบานแรกถูกเปิดออกกับหนทางสู่การชิงแชมป์โลกในอนาคต โดยก่อนลุยระดับโลก เขาได้ไปเก็บประสบการณ์ในเวทีเอเชียอย่าง Free Fire Continental Series 2020: Asia แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อจบเพียงอันดับ 5 ของทัวร์นาเมนต์

“การได้แชมป์ซีซั่น 3 เหมือนปลดล็อคทุกอย่าง” ไอซ์ เล่าย้อนถึงแชมป์โปรลีกสมัยแรกของตัวเอง “ผมก็อธิบายความรู้สึกไม่ถูก แต่จริงๆผมรู้สึกว่า การได้แชมป์ครั้งนั้น ทีมเรายังเล่นไม่เข้ากันได้ดีพอด้วยซ้ำ เหมือนยังไม่ค่อยลงตัว”

“ส่วนในรายการแข่งชิงแชมป์เอเชีย เรามั่นใจเกินไป ประมาทเกินไป เราไม่ได้เล่นแบบในห้องซ้อมพอไปแข่งจริงเลยเล่นไม่ได้ ตอนซ้อมเราเล่นอีกแบบ แต่ไปแข่งจริงเราก็เล่นอีกแบบ เราไม่ได้ขาดซ้อมนะ ตอนซ้อมทีมเรายิงได้หมดทุกทีม แต่พอแข่งจริงเรากลับทำไม่ได้”

“มันเสียดายนะ เพราะตลอดเวลาที่เราซ้อมกันมา ฟอร์มดีมาก แต่แข่งจริงกลับเล่นไม่ได้”

ผลการแข่งอาจจบลงอย่างน่าผิดหวัง แต่ความพ่ายแพ้กลับเป็นบทเรียนชั้นดีอีกครั้งที่ทำให้เขา และทีมเห็นจุดอ่อนที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ Free Fire Pro League Thailand Season 4 สิ่งแรกที่เริ่มแก้ไขคือการสื่อสาร ก่อนจะปรับปรุงความผิดพลาดต่างๆที่ก่อร่างสร้างตัวให้ EVOS ของ ไอซ์ กลับมาแกร่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว

หลังปรับทุกอย่างลงตัว EVOS เดินหน้า Kills คู่แข่งเป็นว่าเล่น ฟอร์มแรงจนฉุดไม่อยู่ แม้เจอความยากในเกมสุดท้าย แต่ก็ทำตามเป้าหมายสำเร็จ

“หลังปรับตัวได้เราแข็งแกร่งมาก ซีซั่น 4 เราเข้าใจกันมากขึ้น แต่ตลอดการแข่งวงไม่เป็นใจเท่าไหร่ พอมาเกมสุดท้ายวงตีเข้ามาหา ซึ่งถ้าวงไม่ตีเข้ามาก็อาจจะพลาดแชมป์ เพราะเกมนั้นเราตาม AAA( Attack All Around) 10 กว่าแต้ม แต่ก็ทำได้ ผมมองว่า การป้องกันแชมป์มันยากกว่า พอได้แชมป์ และได้ไปชิงแชมป์โลกทำให้รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่คุ้มค่าสุดๆ”

“แต่ตอนนั้นมีคอมเมนต์หนึ่งที่บอกว่า EVOS เก่งแค่ในไทย ก็อาจจะจริงอย่างเขาว่า เพราะตอนไปชิงแชมป์เอเชีย เราเล่นพลาดเยอะมาก ช่วงซ้อมก่อนไปแข่งชิงแชมป์โลก เราก็พลาดกันเยอะ พอถึงช่วงกักตัวผมใช้เวลานั้นซ้อมหนักมาก กดแรงค์กับเพื่อนทั้งคืน ผมซ้อมตั้งแต่ 4 โมงจนถึง 5 ทุ่ม หลังจากนั้นกดแรงค์ต่อยาวถึงตี 5 เป็นแบบนี้ทุกวัน”

ฝันเป็นจริง

credit: Phoenix Force Freefire TH

EVOS ลงแข่งชิงแชมป์โลกในชื่อ Phoenix Force เนื่องจากชื่อ EVOS ไปซ้ำกับต้นสังกัดเดียวกันของอินโดนีเซีย โดยเหตุผลที่ ไอซ์ ทุ่มเทอย่างหนักเพราะเขารู้ดีว่า นี่คือวันที่เขารอคอยมานานกับโอกาสได้เข้าร่วมศึกชิงแชมป์โลก นี่คือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันตั้งแต่เริ่มแข่งโปรลีก เขาจึงทุ่มเทสุดตัวอย่างไม่ลังเลเพื่อให้พร้อมที่สุดก่อนศึกชิงแชมป์โลกจะมาถึง

ขณะเดียวกันรายการ Free Fire World Series 2021 Singapore เพิ่มความท้าทายให้กับเขา และ Phoenix Force เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีทีมจากประเทศไทยคว้าแชมป์โลกได้เลยแม้แต่หนเดียว ซึ่งในการแข่งขันอาจเต็มไปด้วยทีมระดับท็อปจากหลายประเทศ แต่ ไอซ์ ไร้ความกดดัน เขาไปด้วยความมั่นใจ ในหัวของเขา ณ เวลานั้นมีเพียงคำว่า แชมป์ เท่านั้น

“ผมมองว่า ในตอนนั้นโอกาสเป็นแชมป์มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะเราได้เห็นข้อผิดพลาดมาแล้ว เราแก้ไขได้ฟอร์มก็ดีมาก ในหัวผมมีแต่แชมป์ ถ้ารอบนี้ไม่ได้แชมป์คงเสียใจหนักแน่”

“มันเป็นความท้าทาย ที่ทีมไทยยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้มาก่อน แต่เราเตรียมตัวมาดีทั้งการพักผ่อน การซ้อม เราเตรียมตัวทุกอย่างดีมาก เรารู้สึกมีความพร้อมที่สุดตั้งแต่มาถึงสิงคโปร์”

“ผมภูมิใจกับการได้ไปชิงแชมป์โลก ที่ผ่านมาผมได้รางวัลมาทุกอย่างแล้วตั้งแต่อยู่ Xavier แชมป์ประเทศไทยก็ได้มาแล้ว สิ่งสุดท้ายเหลือแค่แชมป์โลกเท่านั้นที่ยังทำไม่ได้”

หากว่ากันตามจริง Phoenix Force ของ ไอซ์ เป็นเพียงม้านอกสายตา มีเพียง Fluxo และ EVOS Divine ของ อินโดนีเซีย ที่ถูกมองเป็นทีมเต็ง แต่ Phoenix Force กลายเป็นที่จับตามองทันทีหลังการแข่งเริ่มต้นขึ้น

“เกมแรกใจผมเต้นแรงมาก เราได้ BOOYAH ตั้งแต่เกมแรก มาเกมสองผมหายตื่นเต้นมีความมั่นใจมากขึ้นเล่นไปจนจบเกมที่ 3 ผมดูแล้วโอกาสเป็นแชมป์ของเราสูงมาก มันดีใจมากเพราะมันรวมอันดับ 1 ของแต่ละประเทศมาแข่งนี่คือที่สุดของที่สุดแล้ว”

ท้ายที่สุด Phoenix Force คว้าอันดับ 1 (BOOYAH)ไปถึง 4 จาก 6 เกม เก็บไป 113 แต้มทิ้งขาดอันดับ 2 อย่าง LOUD ตัวแทนจากบราซิลที่ทำไป 77 แต้ม ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จ และแน่นอนว่า Phoenix Force กลายเป็นทีมไทยทีมแรกที่ได้สัมผัสแชมป์โลก โดยมี ไอซ์ เป็นหนึ่งในทีมชุดประวัติศาสตร์

ยิ่งกว่านั้น ไอซ์ ยังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์มาครอง เป็นตราการันตีว่า เขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้

“การได้ MVP มันหมายความว่าผมเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ผมได้ชื่อเสียงกลับมา มีคนอินโดนีเซียมาดู Youtube ของผมมากกว่าคนไทยซะอีก”

“มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดตั้งแต่เข้าวงการของผมก็ว่าได้ การไประดับโลกคือความฝันของผมตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแข่งโปรลีกซีซั่น 1 ผมรอเวลานี้มานานแล้ว ก่อนแข่งผมบอกว่า รอก่อนนะจะเอาอีกใบมาไว้ข้างๆ แล้วผมก็ทำได้จริงๆ”

ไปให้สุดทางฝัน

credit: Phoenix Force Freefire TH

ในวัน 16 ปี ไอซ์ คว้าแชมป์ Free Fire Pro League Thailand 2 สมัย และแชมป์ Free Fire World Series 2021 Singapore อีก 1 สมัย รวมทั้งรางวัลส่วนตัวที่ไล่ตั้งแต่ในประเทศยันระดับโลก แม้จะได้ครบทุกความสำเร็จ แต่ความฝันของเขาจะไม่หยุดเพียงแค่นี้

“เป้าหมายต่อไปของผมคือการป้องกันแชมป์โลก ผมยังไม่อยากหยุดเท่านี้ เราไม่รู้ว่าซีซั่นหน้าในไทยเราจะได้ที่ 2 หรือที่ 1 เพราะแต่ละทีมเก่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันยากกว่าเดิมแน่นอน แต่ผมอยากไปชิงแชมป์โลกอีกครั้ง”

“ผมอยากลงแข่งเหมือนการชิงแชมป์โลกปีแรกที่บราซิลที่มีคนดูเต็มสนาม น่าเสียดายที่โควิด-19 ทำให้ปีที่เราได้แชมป์ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้”

หากย้อนไปในวันแรกที่เขาตัดสินใจเลือกทางเดินตัวเอง ยอมแลกทุกอย่างเพื่อความฝันสู่การเป็นแชมป์โลก นับเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีความกล้า มุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ เพราะเขารู้ดีว่า ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด

และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจึงไม่เคยคิดจะหยุดทำ และพร้อมฝ่าฟันอุปสรรคอยู่เสมอ

“ถ้าวันนั้นผมไม่กล้าตัดสินใจขอแม่มาแข่ง ผมคงเป็นได้แค่เด็กติดเกมคนหนึ่งที่เอาแต่เล่นเกมไปวันๆ เรียนไปเล่นเกมไปไม่มีอะไรเลยในชีวิต”

“แต่เกมทำให้ผมมีชื่อเสียงช่วยสร้างรายได้ที่ผมสามารถนำมาเลี้ยงครอบครัวได้ ที่บ้านเขาก็ภูมิใจในตัวผมที่มีวันนี้ เวลาผมลงแข่งเขาก็จะตามคอยเชียร์ตลอด วันนี้ชีวิตผมเหมือนเดินมาถึงบันไดขั้นที่ 9 ส่วนขั้นสุดท้ายของผมคืออะไรน่ะเหรอ”

“มันคือการป้องกันแชมป์โลกไงล่ะ” ไอซ์ The Cruz ปิดท้ายด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น